ตรวจชีพจร 'แมะ'

18/06/2024
ตรวจชีพจร 'แมะ'

ตรวจชีพจร 'แมะ'

ศาสตร์การแพทย์แผนจีน

        หมอแมะ เป็นคำที่มักใช้เรียก แพทย์แผนจีน โดยคำว่า แมะ ในภาษาจีนกลางอ่านว่า ม่าย(脉)มีความหมายว่าชีพจร กล่าวได้ว่าเป็นหมอที่ใช้การจับชีพจรเพื่อวินิจฉัยโรคเป็นสำคัญ การจับชีพจรเป็นหนึ่งในการขั้นตอนการวินิจฉัยโรคพื้นฐานของแพทย์แผนจีนอันประกอบไปด้วย การดู การดม,การได้ยิน การสอบถามอาการ และการจับชีพจร (望 闻 问 切)ตามตำราของแพทย์แผนจีนชีพจรมีอยู่ทั้งหมด 28 ชนิด จำแนกชีพจรเป็น 6 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ ชีพจรตื้น ลึก ช้า เร็ว เบา และ แรง จากการจำแนกแยกประเภทชีพจรที่ละเอียดทำให้การจับชีพจรของแพทย์แผนจีนมีความโดดเด่นสามารถวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

 

“แมะ” บอกอะไรได้บ้าง

        การแมะเป็นการตรวจดูการทำงานของอวัยวะภายใน การไหลเวียนของเลือด หากสุขภาพร่างกายมีความผิดปกติ จะสะท้อนออกมาทางการเต้นของชีพจรบอกให้รู้ถึงสาเหตุของอาการป่วยและส่วนที่ทำงานผิดปกติ ดังนั้นก่อนการรักษาทุกครั้งแพทย์แผนจีนจำเป็นต้องจับชีพจรเพื่อตรวจสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยในปัจจุบัน จากนั้นจึงค่อยวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับอาการและสุขภาพร่างกายของผู้ป่วย

 

แมะ บอกสาเหตุของโรค

        แพทย์แผนจีนมีคำกล่าวว่า “โรคเดียวกันรักษาไม่เหมือนกัน (同病异治)” กล่าวคือ แม้ว่าจะมีอาการเหมือนกันแต่หากสาเหตุของอาการแตกต่างกันแนวทางการรักษาอาการก็จะแตกต่างกัน ซึ่งการจับชีพจรก็เป็นวิธีหนึ่งสำหรับใช้วินิจฉัยสาเหตุของอาการ เช่น อาการมึนศีรษะที่มาจากการจากสภาพอากาศ ลม ความเย็น ความร้อน ลักษณะชีพจรจะมีความตื้นจับชีพจรเจอได้ง่าย(浮脉)หรือ อาการมึนศีรษะจากอาการอ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก ชีพจรจะมีความลึก เบา (弱脉)

 

แมะ บอกตำแหน่งของอาการป่วย

        การจับชีพจรแพทย์แผนจีนจะมีการตรวจทั้ง2ข้าง โดยชีพจรจากมือ2ข้างจากบ่งบอกถึงการทำงานของอวัยวะที่แตกต่างกัน รวมทั้งลักษณะของชีพจรยังสามารถจำแนกบริเวณของโรคได้ เช่น ชีพจรตื้นหรือลึกสามารถจำแนกได้ว่าอาการป่วยอยู่บริเวณร่างกายภายนอกหรืออาการป่วยได้เข้าไปสู่ร่างกายภายใน นอกจากนี้ยังสามารถจำแนกได้ว่าอาการป่วยเกิดขึ้นบริเวณร่างกายส่วนบน ส่วนกลาง หรือส่วนล่างของร่างกาย

 

แมะ บอกการทำงานของอวัยวะภายใน

        ลักษณะชีพจรของอวัยวะภายในจะมีความแตกต่างกัน หากชีพจรเต้นผิดปกติไปจากเดิม จะบ่งบอกได้ว่าอวัยวะนั้นได้มีการทำงานที่ผิดปกติและทำงานผิดปกติอย่างไร

เช่น อวัยวะตับ,ตับอ่อน ลักษณะชีพจรมีความตึงเป็นเส้น (弦脉) หากตับทำงานอ่อนเพลีย ชีพจรจะลึกและเล็ก(脉沉细) หรือหากตับทำงานหนัก มีความร้อนสะสมเยอะ ชีพจรจะมีเต้นแรงและเร็ว(脉数)

 

แมะ บอกแนวทางป้องกันโรค

        การจับชีพจรสามารถบอกถึงสุขภาพร่างกายในปัจจุบันและยังสามารถบอกถึงแนวโน้มอาการป่วยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เมื่ออวัยวะภายในเริ่มทำงานผิดปกติ แน่นอนลักษณะการเต้นชีพจรจะมีความเปลี่ยนแปลงและหากอวัยวะทำงานผิดปกติมากขึ้นก็จะสะท้อนออกมาเป็นอาการป่วยต่างๆ เพราะฉะนั้นเมื่อแพทย์แผนจีนพบว่า ชีพจรเต้นปิดปกติก็จะรักษาฟื้นฟูการทำงานของอวัยวะภายในให้กลับมาเป็นปกติ จึงเป็นเหมือนการรักษาเพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

 

        การจับชีพจรของแพทย์แผนจีนสามารถวินิจฉัยอาการป่วย วางแผนการรักษาได้และสามารถตรวจสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยในปัจจุบันเพื่อป้องกันอาการป่วยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แพทย์แผนจีนเป็นศาสตร์การรักษาและฟื้นฟูร่างกาย การรักษาที่ดีไม่เพียงแค่รักษาอาการป่วยในปัจจุบันเท่านั้นแต่ควรรักษาฟื้นฟูก่อนที่จะมีอาการป่วย เพราะฉะนั้นแม้จะไม่มีอาการป่วยก็สามารถให้หมอแมะตรวจสุขภาพร่างกาย รักษาฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงได้เช่นเดียวกัน

 

.

 

GUITANG 龟堂

 

CHINESE MEDICINE & WELLNESS CLINIC

 

.

 

เพียบพร้อมด้วยบุคคลากรทางการแพทย์

 

แพทย์จีนปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

 

เปิดให้บริการรักษาด้านการแพทย์แผนจีนอย่างเต็มรูปแบบ

 

.

 

สาขาพระราม3

 

โทรศัพท์ : 061-9261415

 

เปิดบริการทุกวัน 11.00-19.00 หยุดทุกวันพุธ

 

LINE@: https://page.line.me/239icbzc

 

.

 

สาขาสุราษฎร์ธานี

 

โทรศัพท์ : 062-6322891​

 

เปิดบริการทุกวัน 09.30-18.30 หยุดทุกวันอังคาร

 

LINE@: https://lin.ee/D8SkDwv

 

.

 

Facebook: https://www.facebook.com/guitang.tcmwellness

 

เว็บไซต์ : www.guitangwellness.com